Sky.🌈🍄

 สถานที่สำคัญในจังหวัดปัตตานี จังหวัดปัตตานีมีทั้งสถานที่ทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่น่าสนใจ นี่คือสถานที่สำคัญที่คุณไม่ควรพลาด: 1. มัสยิดกรือเซะ ที่ตั้ง: ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมืองปัตตานี เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรปัตตานี มีตำนานเกี่ยวกับ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่สาปให้ก่อสร้างไม่เสร็จ เป็นศิลปะแบบเปอร์เซียผสมมลายู 2. ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตั้ง: อำเภอเมืองปัตตานี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวไทยเชื้อสายจีน มีเทศกาลแห่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวทุกปี เชื่อกันว่าขอพรเรื่องโชคลาภและความปลอดภัยได้ 3. วัดช้างให้ (พระครูวิสัยโสภณ – หลวงพ่อทวด) ที่ตั้ง: อำเภอโคกโพธิ์ เป็นวัดสำคัญที่ชาวไทยพุทธให้ความเคารพ เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อทวด พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มีพระพุทธรูปโบราณและโบสถ์เก่าแก่ 4. หาดตะโละสะมิแล ที่ตั้ง: ตำบลบานา อำเภอเมืองปัตตานี เป็นหาดทรายขาวสวยงามติดทะเลอ่าวไทย เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ 5. พิพิธภัณฑ์เมืองปัตตานี ที่ตั้ง: ศาลากลางจังหวัดปัตตานีหลังเก่า จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของปัตตานี มีโบ...

 จังหวัดปัตตานี เป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกี่ยวข้องกับอาณาจักรโบราณ ศาสนา และวัฒนธรรมที่หลากหลาย 1. ยุคโบราณและอาณาจักรลังกาสุกะ พื้นที่ของจังหวัดปัตตานีในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรลังกาสุกะ ซึ่งเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองในคาบสมุทรมลายูตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13-18 ลังกาสุกะมีความสัมพันธ์ทางการค้าและวัฒนธรรมกับอินเดียและจีน โดยเฉพาะในด้านศาสนาและศิลปะ ต่อมาได้รับอิทธิพลจากศาสนาอิสลาม ซึ่งเข้ามาผ่านพ่อค้าชาวอาหรับและอินเดีย 2. ยุคราชอาณาจักรปัตตานี ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20-21 ปัตตานีเจริญรุ่งเรืองในฐานะ สุลต่านปัตตานี โดยมีการปกครองแบบรัฐอิสระ สุลต่านอิสมาอิล ชาห์ (Sultan Ismail Shah) เป็นกษัตริย์องค์แรกที่เปลี่ยนศาสนาประจำเมืองเป็นอิสลาม มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับชาวยุโรป เช่น โปรตุเกสและดัตช์ ปัตตานีเป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม เช่น การทำ "กริชปัตตานี" และ "เรือกอและ" 3. การเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา ในสมัยอยุธยา ปัตตานีอยู่ภายใต้การควบคุมของไทย แต่ก็มีการก่อกบฏและต่อต้านหลายครั้ง หลังกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. 2310 ปัตตา...

 เมอร์ไลออน (อังกฤษ: Merlion; มลายู: Singa-Laut ซีงา-ลาอุต; จีน: 鱼尾狮; พินอิน: Yúwěishī หยูเหว่ยซือ) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์     แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลี กวน ยูสิงโตตัวนี้สูง 8.6 เมตร มีน้ำหนัก 70 ตัน ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ โดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ผู้เสียชีวิตไปแล้วที่ชื่อนายลิมนังเซ็ง ส่วนรูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3 ตัน สิงโตตัวนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก     ผู้ออกแบ...